ในยุคที่เทคโนโลยี “จอแอลอีดี” กำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย วันนี้เราจะมาเจาะลึกและเปรียบเทียบสองเทคโนโลยีหลักที่ใช้ในการผลิต “LED” นั่นคือ COB (Chip on Board) และ SMD (Surface Mounted Device) ทั้งสองเทคโนโลยีนี้มีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อการเลือกใช้งานในแต่ละประเภท

1. หลักการทำงานและโครงสร้างพื้นฐาน

• เทคโนโลยี SMD (Surface Mounted Device)
  SMD LED เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ชิป “LED” แต่ละตัวแยกกัน โดยติดตั้งบนพื้นผิวของแผ่น PCB แต่ละชิปจะมีขั้วไฟฟ้าของตัวเอง ทำให้สามารถควบคุมแต่ละ “LED” แยกกันได้ 
• เทคโนโลยี COB (Chip on Board)
  COB LED เป็นเทคโนโลยีที่นำชิป “LED” หลายๆ ตัวมาติดตั้งบนแผ่น PCB (Printed Circuit Board) โดยตรง และเคลือบด้วยสารฟอสฟอร์เพื่อให้เกิดแสงสีขาว ทำให้ดูเหมือนเป็น “LED” ก้อนเดียวขนาดใหญ่ 

2. ความสว่างและการกระจายแสง

• จอ COB LED มักจะให้ความสว่างและความเข้มของแสงที่สูงและสม่ำเสมอกว่า SMD LED ในพื้นที่เท่ากัน เนื่องจากมีความหนาแน่นของชิป “LED” ที่มากกว่า ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการแสงสว่างจ้า เช่น ภายนอกอาคารหรือสนามกีฬา
  

3. ขนาด Pixel Pitch และความละเอียด

• จอ COB LED มีความหนาแน่นของชิป LED ที่เรียงติดกันมากกว่า จึงสามารถทำขนาด Pixel Pitch ที่ค่อนข้างเล็กและละเอียดกว่า เช่น P1.5, P1.2, P0.9, P0.7, P.05 หากคุณกำลังมองหาหน้าจอ LED ที่มีความละเอียดสูง จอ COB LED จะตอบโจทย์ได้ดีกว่านั่นเอง

4. ความคมชัด และ Contrast Ratio

• จอ LED COB มีความหนาแน่นของการบรรจุสูงและความสม่ำเสมอของสีที่ดีขึ้น ส่งผลให้คุณภาพภาพดีขึ้น จอ LED COB เหล่านี้สามารถสร้างภาพที่สดใสและมีชีวิตชีวา ด้วยอัตราส่วน Contrast สูงและการแสดงสีที่ดีกว่า โดยมี Contrast Ratio สูงถึง 100000:1 เมื่อเทียบกับ SMD LED ที่อยู่ประมาณ 5000:1 หรือ 10000:1
  

5. ความหนาของจอ

• เนื่องจาก LED COB นั้นถูกติดตั้งลงบนแผงวงจร PCB โดยตรงและแม่นยำ ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ในการออกแบบได้มาก ความหนาของจอ COB LED จึงสามารถทำได้บางกว่าจอ LED SMD

6. การจัดการความร้อนและอายุการใช้งาน

• จอ COB LED มีความสามารถในการระบายความร้อนที่เหนือกว่าจอ LED SMD และ GOB เนื่องจากการติดตั้งชิป LED ลงบนพื้นผิวโดยตรงทำให้สามารถจัดการความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพดีขึ้น อายุการใช้งานยาวนานขึ้น และลดความเสี่ยงต่อการร้อนเกินไป

7. การต่อขยาย และ ความยืดหยุ่นในการออกแบบ

• จอ SMD LED มีความยืดหยุ่นในการออกแบบมากกว่า สามารถสร้างรูปแบบและลวดลายที่ซับซ้อนได้ เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความสวยงามและการควบคุมแสงที่ละเอียด ในขณะที่ COB LED เหมาะสำหรับการออกแบบที่ต้องการแหล่งกำเนิดแสงที่เข้มข้นในพื้นที่จำกัด
• จอ COB LED เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความสว่างสูง เช่น ไฟส่องสว่างในอุตสาหกรรม ไฟสปอตไลท์ หรือไฟถนน ส่วน SMD LED เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความสวยงามและการควบคุมแสงที่ละเอียด เช่น ไฟตกแต่ง จอแสดงผล หรือไฟในอาคาร

8. ประหยัดพลังงาน และ การกินไฟ

• จอ COB LED ประหยัดพลังงานและมีอัตราการกินไฟต่ำกว่าแบบ SMD รวมถึงมีอุณหภูมิในการทำงานที่ต่ำกว่าโดยเฉลี่ย

9. ราคาและความคุ้มค่าในการลงทุนระยะยาว

• ราคา COB LED จะมีราคาที่สูงกว่า ทั้งนี้ ในแง่ของความคุ้มค่าระยะยาว ทั้ง COB และ SMD LED ต่างก็มีข้อดีของตัวเองที่แตกต่างกันตามจุดประสงค์ในการใช้งาน COB LED อาจมีความคุ้มค่ามากกว่าสำหรับการใช้งานที่ต้องการความสว่างสูง มีความคงทนและมีการใช้งานต่อเนื่องยาวนาน ในขณะที่ SMD LED อาจคุ้มค่ากว่าสำหรับการใช้งานที่ต้องการความยืดหยุ่น รูปแบบการติดตั้งที่ Customize ได้ เป็นต้น

สรุปได้ว่า ทั้ง COB และ SMD LED ต่างมีจุดแข็งและข้อจำกัดของตัวเอง การเลือกใช้เทคโนโลยีใดขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของแต่ละโครงการ COB LED เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความสว่างสูงในพื้นที่จำกัด ในขณะที่ SMD LED เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความยืดหยุ่นในการออกแบบและการควบคุมแสงที่ละเอียด ผู้ใช้งานควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบด้าน ทั้งด้านประสิทธิภาพ การใช้งาน และความคุ้มค่าในระยะยาว เพื่อเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุดนั่นเอง